ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

คำสอนจากก๋ง


คำสอนจากก๋ง

วันก่อนไปยืมหนังสือที่ห้องสมุด ฉันมักจะพาลูก ๆ ไปด้วย อยากให้เขาได้สัมผัสบรรยากาศ และได้ซึมซับการอ่านหนังสือจากเราผู้เป็นแม่เป็นตัวอย่าง จะให้เขาเลือกหนังสือที่ขอบ ที่อยากดู อยากอ่าน ด้วยตัวของเขาเอง เขาจะได้มีความอยากรู้อยากอ่าน ได้มีความสนใจในเรื่องดี ๆ เช่นการอ่านหนังสือ แทนการเล่นมือถือได้อย่างดี เป็นการฝึกการอ่านและเพิ่มพูนความรู้ไปในตัวด้วย
วันนั้นลูกสาวคนโตของฉัน อายุ 9 ขวบ เธอเลือกหนังสือ เรื่อง อยู่กับก๋ง คิดว่าเป็นหนังสือนอกเวลาเรียนที่โรงเรียนแนะนำให้อ่าน เพราะตอนเด็กฉันก็เคยได้อ่านมาพอจำได้ แต่รู้สึกอยากอ่านมาก เลยหยิบขึ้นมาอ่านอีกครั้งในตอนโตนี้ เมื่อเรามีสติปัญญามากขึ้นกว่าแต่ก่อน ที่เคยรู้ว่าหนังสือนี้ดี ยังทำให้ได้คิดอีกว่า คำสอนที่แฝงไว้ในหนังสือนี้ ควรค่าแก่การนำไปเผยแผ่ให้กับผู้อื่นด้วย ดังเนื้อความดังต่อไปนี้
ก๋งนี้เป็นชาวจีนที่อพยพมาอยู่ที่เมืองไทย อาศัยอยู่กับหลาน ชื่อ หยก ก๋งเป็นคนจีนที่เข้ามาอยู่ในชุมชนในยุคแรก ๆ เป็นคนดี มีคุณธรรม และเป็นที่นับถือของคนในหมู่บ้าน ก๋งมักมีคำสอนดี ๆ ให้กับหยก และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับหยกเสมอ ดังคำสอนที่ว่า
“คนที่ไม่เป็นระเบียบชีวิตจะยุ่งเหยิง คนที่ไม่รักความสะอาดจะหาความสดชื่นแจ่มใสไม่ได้ และคนที่ไม่รักความสุจริตชีวิตจะมีมลทิน”
“ไม่ต้องอายที่เป็นคนจน แต่ควรอายที่เป็นคนเลว เพราะความจนความรวยเราเลือกไม่ได้ แต่ความดีความเลว เราเลือกทำเลือกเว้นได้...”
“คนที่เขารวยได้น่ะ เพราะเขามีโอกาสและมีความสามารถ...ไม่ใช่ว่าดวงดีแล้วจะร่ำรวยได้ ก่อนจะสร้างตัวได้สำเร็จเขาจะต้องผ่านการทำงานอย่างหนักมาแล้วด้วย รู้จักหาเงิน รู้จักเก็บงำ รู้จักคิดหาช่องทางต่อทุน ฐานะของเขาจึงเป็นปึกแผ่นขึ้นมาได้...ไม่มีใครโชคดีถึงกับนอนขี้เกียจอยู่ข้างถนนแล้วเทวดาจะโยนถุงเงินลงมาให้ถึงหน้าตัก...จำไว้”
ความสุขของคนร่ำรวย คือ การนั่งเก็บเกี่ยวผลจากงานที่ทำสำเร็จไปแล้วในอดีต
แต่คนจน จะมีความสุขกับการได้เริ่มทำงาน ก็ต้องหัดทำงานได้สารพัดอย่างไม่ว่างานหนักหรืองานเบา มันเป็นความจำเป็นโดยมีความจนเป็นนายคอยชี้นิ้วบัญชา ความดิ้นรนเป็นมือที่คอยผลักดัน ความเพียรเป็นพี่เลี้ยงคอยพยุงมิให้ระทดท้อ...
“คนจนมีความสุขที่มีกิน แต่คนรวยมีความสุขที่ได้กิน”
“เขาไม่อยากเป็นเพื่อนกับเราก็ตามใจเขา แต่อย่าไปโกรธหรือเกลียดชังเขา เรายังหาเพื่อนที่จะคบเราอย่างจริงใจได้อีกมากมาย ขอให้เราเป็นคนดีเท่านั้น...”
“ความจริงของคนคนหนึ่งไม่ใช่ความจริงของคนทั้งหมด”
“อย่าไปคิดเรื่องเงินให้มากนัก ถ้าเขาไม่ให้หรือให้น้อยไปไม่คุ้มเหนื่อย เราก็เฉย ๆ เสีย วันหลังเราเดือดร้อนเขาอาจจะช่วยเราได้ ... ให้เขาเห็นใจเราดีกว่า อย่าให้เขาเอาแต่เงินมาซื้อแรงงานของเราเลย”
“อยู่เมืองไทยต้องรู้หนังสือไทยก่อนไม่อย่างนั้นจะอยู่กับเขาได้อย่างไร”
“คนจนต้องหาวิชาไว้เลี้ยงตัวเพราะไม่มีเงินทองไว้ให้ใช้สอยโดยไม่ต้องทำงาน ตอนเด็กทุกคนมีหน้าที่เรียน โตแล้วทำงาน...”
“คนที่มีวิชาติดตัวยากนักที่จะอับจน แพ้คนยาก และไม่เสียเปรียบใครด้วย ถ้าไม่มีวิชาติดตัวเลยจะทำงานสูง ๆ อะไรก็ไม่ได้ ต้องเป็นคนหาเช้ากินค่ำ ติดอยู่กับดินกับทรายตลอดชีวิต ... พยายามเรียนไปเถอะ หมดสมองที่จะเรียนเมื่อไรค่อยหยุด”
“เขาเอื้อเฟื้อเรา เราก็ต้องตอบแทนเขาบ้าง เขาจะได้เห็นชัดว่าความดีที่เขาประกอบขึ้นได้รับผลสนองทันตา ไม่ต้องรอถึงชาติหน้า ...” (น้ำใจไมตรี แลกได้ทุกสิ่งที่ประสงค์)
“การตอบแทนบุญคุณทำได้หลายรูป...แต่รูปที่เหมาะที่สุดคือต้องให้สะดวกใจทั้งผู้ให้และสบายใจทั้งผู้รับ”
“ความรู้เป็นทรัพย์ติดกายที่ไม่มีใครแย่งชิงไปได้ ไม่มีวันตกหล่นแห้งหายไป คนโบราณจึงบอกว่ามีวิชาเหมือนที่ทรัพย์...” (ครูบรรยงค์)
“ในเมื่อเราไม่มีความพิการออกเร่แลกความสนใจสงสารให้เขาให้ทานเราก็ต้องทำงานของเราไป มากน้อยก็ทำไปตามความสามารถ ขอให้เป็นงานสุจริตเท่านั้นเป็นพอ”
“ความยากจนไม่ใช่ของคู่กับความสกปรกมอมแมม...การทำตัวให้สะอาดสะอ้านและทำจิตใจให้โปร่งก่อนนอน จะทำให้หลับสนิท”
“สิ่งที่เห็นเมื่อวานนี้หรือวันนี้ พอถึงพรุ่งนี้มันก็จะเปลี่ยนไป เพียงแต่ช้าหรือเร็ว เพียงบางส่วนหรือโดยสิ้นเชิงเท่านั้นเอง ไม่มีใครจะเหนี่ยวรั้งความเปลี่ยนแปลงไว้ได้หรอก...”
“สิ่งที่เราทำด้วยใจรักที่สุดคือสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งอาจจะไม่ใข่งานที่ให้ผลประโยชน์กับเรามากที่สุด”
“งานไม่ดีเท่าที่ควรจะตัดทางทำมาหากินของเราเอง เขาจะมาจ้างเราก็เพียงครั้งเดียว แต่ถ้าทำงานให้เขาดี ๆ เป็นที่พอใจแล้ว ถึงเขาจะไม่มีงานใหม่มาให้เราทำ เขาก็ยังเต็มอกเต็มใจแนะนำลูกค้ารายใหม่มาให้เรา...คนที่ทำงานลวก ๆ พอให้เสร็จ ๆ ไป จะหากินได้รายละครั้งเดียวเท่านั้นเอง ไม่มีใครมาจ้างซ้ำสองซ้ำสามอีก...”
“ไม่มีใครพร้อมหรอก ความพร้อมไม่มีที่สิ้นสุด วันนี้เราคิดว่าถ้ามีหรือเป็นอย่างนั้นอย่างโน้นก็จะพร้อม พอได้มาจริง ๆ แล้วเราก็คิดต่อไปอีกว่าควรจะมีจะเป็นอย่างโน้นอย่างนี้...ชีวิตจะไม่มีวันพร้อมหรอก...”
“คนเป็นงานก็ถูกเรียกใช้บ่อย คนที่เจ้านายไม่เรียกสิน่าจะต้องสำรวจตัวเอง ว่ามีความบกพร่องประการใดหรือด้วยความสามารถตรงไหนต่างหาก ไม่ใช่เที่ยวอิจฉาตาร้อนคนที่ก้าวไปข้างหน้าเร็วกว่าตัวเองที่เอาแต่หยุดนิ่งอยู่กับที่เดิม คนเรานี่น่ะส่วนใหญ่เสียตรงตาบอดกับความผิดความบกพร่องของตัวเองดีแต่คอยจ้องจับผิดคนอื่น”
“คนที่มีธาตุดีอยู่ในตัว เขาจะเอื้อธาตุดีนี้ให้กับทุกคนโดยไม่เลือก”
“เกิดมาเป็นคนทั้งทีต้องให้มีคนรัก คนที่มีแต่ศัตรูหรือมีแต่คนชิงชังรังเกียจจะหาความสุขไม่ได้หรอกในชีวิตเขา เพราะจะถูกสาปแช่งถูกปองร้ายอยู่ตลอดเวลา ตัวเองก็มีแต่ความหวาดระแวงความไม่สบายใจ ผิดกับคนดีที่ได้รับแต่คำยกย่องสรรเสริญ ซึ่งเป็นเหมือนปุ๋ยที่ทำให้ชีวิตเจริญงอกงามยิ่ง ๆ ขึ้น”
“คนเราเกิดมาต้องมีความกตัญญูรู้คุณ ต้องหาทางตอบแทนบุญคุณเขาให้จงได้ ให้สมกับที่เขาดีต่อเรา”
“เราจะเพียงแต่รักและมีความเคารพอยู่ในใจไม่ได้ ไม่พอ เราต้องหาโอกาสตอบแทนด้วย...ตอบแทนตามกำลังฐานะของเรา”
“ที่เห็นว่าคนรวยนั่งเสวยสุขอยู่เฉย ๆ นั่น เข้าใจผิด... ความจริงเขาทำงานอย่างหนักมาแล้วต่างหากเล่า เขาจึงมีฐานะในบั้นปลายดีพอที่จะนั่งสบายบนกองเงินกองทองได้”
“คนที่ทำงานหนักจะต้องได้รับรายได้มากเป็นธรรมดา แต่ที่ว่าทำไมเขาจึงยังยากจนอยู่จนกระทั่งแก่ นั้นเราต้องหาสาเหตุให้พบ ...เขาใช้จ่ายเงินเป็นหรือเปล่า อาจจะสุรุ่ยสุร่าย ไม่รู้จักต่อทุน ไม่รู้จักสะสมหรือเอาไปเล่นการพนันหมด...”
“ถ้าปลูกต้นไม้เล็ก คนปลูกก็ไม่เหนี่อย แต่ร่มเงาที่จะได้จากต้นไม้ที่ปลูกนั้นมันก็ย่อมไม่กว้าง”
“คนจนอย่างเราต้องเก็บเงินสะสมไว้ต่อไปภายหน้าจะได้เป็นทุนทำกิจการเป็นของตัวเอง เริ่มแต่เล็ก ๆ ก่อน ถ้าโชคดีประสบความสำเร็จก็จะได้ขยับขยายต่อไป ถ้าเป็นลูกจ้างเขาก็ต้องเป็นไปจนแก่เฒ่า ไม่มีอะไรเป็นของตัวเองของลูกหลาน...มาอยู่ใกล้เตี่ยใกล้แม่ก็ดีแล้วเพราะแกก็แก่ คนแก่ทุกคนอยากอยู่ใกล้ลูกหลานทั้งนั้น”

ขอบคุณหนังสือดี ๆ จาก หยก บูรพา

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เวลา คือ ชีวิต

เวลา คือ สิ่งที่มีค่าที่สุด ไม่ว่ารวยหรือจน เราทุกคนเกิดมามีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน เพียงแค่ใครจะสามารถบริหารเวลาได้ดี ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุดเท่านั้น ด้วยการทำงาน เพื่อให้เราบรรลุเป้าหมายได้โดยเร็ว เราจึงต้องมีการวางแผนในทุก ๆ ด้านของชีวิต เพื่อจัดตารางเวลาให้เหมาะสม เมื่อเรามีอิสรภาพดังที่ได้ตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินทอง งาน ครอบครัว เมื่อถึงเวลานั้น เราก็จะได้มีอิสรภาพทางเวลาที่แท้จริง อยากไปไหน..ได้ไป อยากทำอะไร..ได้ทำ ได้มีเวลาทำสิ่งที่ชอบ อยู่กับคนที่รัก เพียงแต่คุณต้องเริ่มทำในสิ่งที่ต้องทำ เพื่อให้ได้ซึ่งอิสรภาพมาก่อน ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ พร้อมหรือไม่ก็ตาม เลือกเวลาที่ใช่....สำหรับคุณ เลือกทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการในชีวิต เขียนมันออกมา เลือกอันที่สำคัญที่สุดและลงมือทำทันที ทำให้เป็นนิสัย อาจเริ่มจากเป้าหมายง่าย ๆ เมื่อทำสำเร็จ เราจะเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเองมากขึ้น ว่าเราทำได้ และเริ่มเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น และทำต่อไป เมื่อมีอุปสรรคให้ปรับเปลี่ยนแผนและลงมือทำต่อไปจนกว่าจะสำเร็จ ทำทุกอย่างด้วยความมุ่งมั่น อดทน และพยายามจนกว่าจะสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ ฉันหวั

7 คำทรงพลัง...มหัศจรรย์คำพูดจากปากคุณ !

7 คำทรงพลัง...มหัศจรรย์คำพูดจากปากคุณ ! 1.        ฉัน คือ สิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นมาบนโลกนี้ ฉัน คือ สิ่งมหัศจรรย์ ฉันมีคุณค่าต่อตัวเอง ต่อผู้อื่นและต่อโลกใบนี้ ขอบคุณตัวฉันเองที่เพียรฝึกฝน ขอบคุณตัวฉันเอง ขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณ 2.        ฉันทำได้ จงทำความเข้าใจกับความกลัว แล้วคุณจะกล้าขึ้นอย่างไม่ประมาท ฉันทำได้ และฉันได้ทำแล้ว 3.        ฉันเป็นคนคิดบวก “คุณจะมองเห็น สิ่งที่คุณมองหา” ทำให้คุณมองเห็นโลกที่สวยงามยิ่งขึ้น ความคิดบวกจะนำสิ่งดี ๆ มาสู่ชีวิตคุณอย่างแน่นอน โดยการยืนยัน การพูดย้ำ ซ้ำ ๆ กับตัวเอง ว่าคุณเป็นคนคิดบวก ฉันเลือกที่จะคิดบวก 4.        ฉันมีรอยยิ้มที่สดใสสวยงาม รอยยิ้มเป็นพฤติกรรมทางร่างกายที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของคนเราได้ เมื่อไหร่ที่เรายิ้มออกไป รอยยิ้มนั้นจะไปกระตุ้นสมองของเรา ให้รับรู้ถึงกล้างเนื้อของใบหน้าว่ามันคือการแสดงออก ของความสุขและอารมณ์ที่ดี 5.        ฉันคือความสุข วันนี้จะเป็นวันแห่งความสุขของฉัน ฉันเลือกที่จะมีความสุข และฉันพร้อมที่จะแบ่งปัน ความสุขให้กับผู้คน 6.