ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

วิถี Dhandho



Dhandho = การสร้างความมั่งคั่งแบบปราศจากความเสี่ยง

วิถีDhandho
1.       ลงทุนในธุรกิจซึ่งมีการดำเนินงานอยู่แล้ว 
2.       ลงทุนในธุรกิจที่เรียบง่าย
3.       ลงทุนในธุรกิจที่มีปัญหาในอุตสาหกรรม ซึ่งกำลังอยู่ในภาวะยากลำบาก
4.       ลงทุนในธุรกิจที่มีความได้เปรียบเชิงแข่งขันอันยั่งยืน 
5.       เดิมพันน้อยอย่าง เดิมพันหนัก ๆ ไม่เดิมพันบ่อย  
6.       มองหาโอกาสทำอาร์บิทราจ  
7.       มีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัยเสมอ 
8.       ลงทุนในธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่มีความไม่แน่นอนสูง
9.       ลงทุนในพวกเลียนแบบ ไม่ใช่พวกสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ 

คำถาม 7 ข้อ ที่คุณควรตรึกตรองก่อนจะตัดสินใจซื้อหุ้น
1.       มันเป็นธุรกิจที่ฉันเข้าใจและอยู่ในขอบข่ายความสามารถของฉันใช่หรือไม่ ?
2.       ฉันรู้มูลค่าที่แท้จริงในปัจจุบันของธุรกิจนี้หรือเปล่า ? ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า 
      มูลค่าที่ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่อย่างไร ?
3.       ราคาของธุรกิจมีส่วนลดจากมูลค่าที่แท้จริงในปัจจุบันและในอีก 2-3 ปี ข้างหน้าหรือไม่
      ส่วนลดที่ว่าสูงกว่า 50 % หรือเปล่า ?
4.       ฉันกล้าเอาเงินในสัดส่วนที่มากไปซื้อธุรกิจนี้หรือไม่ ?
5.       ความเสี่ยงอยู่ในระดับต่ำมากใช่หรือเปล่า ?
6.       ธุรกิจมีความได้เปรียบเชิงแข่งขันอันยั่งยืนหรือไม่ ?
7.       ผู้บริหารซื่อสัตย์และมีความสามารถใช่หรือเปล่า ?

กฎเหล็ก 2 ข้อ ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ คือ
กฏข้อที่ 1  :  อย่าขาดทุน
กฎข้อที่ 2  :  อย่าลืมกฏข้อที่ 1

- ความมั่งคั่งมหาศาลบนโลกใบนี้ มักเกิดจากการเป็นเจ้าของธุรกิจชั้นเยี่ยมเพียงอย่างเดียว 
ถ้าคุณเข้าใจธุรกิจ คุณไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของธุรกิจมากมายหลายอย่าง
-โอกาสการลงทุนอันยอดเยี่ยมเกิดขึ้นไม่บ่อย และเมื่อคุณพบโอกาสเหล่านี้ 
คุณควรจะลงทุนด้วยเงินในสัดส่วนที่สูง
-เคล็ดลับก็คือ ให้รู้มาก ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่คุณเป็นเจ้าของ และคุณไม่ควรเป็นเจ้าของหลายสิ่งหลายอย่างเกินไป
-สูตรก็คือ “เดิมพันน้อยอย่าง เดิมพันหนัก ๆ ไม่เดิมพันบ่อย”

            นักลงทุนสาย Dhandho จะลงทุนในธุรกิจที่เข้าใจง่ายและไม่ซับซ้อน เราต้องอยู่ในขอบข่ายความรู้ของตัวเอง 

ขอบคุณ หนังสือ THE DHANDHO INVESTOR สำหรับความรู้ดี ๆ ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ

ฉันหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณและคนที่คุณรัก
ขอบคุณที่ติดตาม  Blog : Think of success
โชคดีเป็นของคนที่ลงมือทำ ขอให้ทุกคนโชคดีและประสบความสำเร็จ


            

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เวลา คือ ชีวิต

เวลา คือ สิ่งที่มีค่าที่สุด ไม่ว่ารวยหรือจน เราทุกคนเกิดมามีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน เพียงแค่ใครจะสามารถบริหารเวลาได้ดี ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุดเท่านั้น ด้วยการทำงาน เพื่อให้เราบรรลุเป้าหมายได้โดยเร็ว เราจึงต้องมีการวางแผนในทุก ๆ ด้านของชีวิต เพื่อจัดตารางเวลาให้เหมาะสม เมื่อเรามีอิสรภาพดังที่ได้ตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินทอง งาน ครอบครัว เมื่อถึงเวลานั้น เราก็จะได้มีอิสรภาพทางเวลาที่แท้จริง อยากไปไหน..ได้ไป อยากทำอะไร..ได้ทำ ได้มีเวลาทำสิ่งที่ชอบ อยู่กับคนที่รัก เพียงแต่คุณต้องเริ่มทำในสิ่งที่ต้องทำ เพื่อให้ได้ซึ่งอิสรภาพมาก่อน ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ พร้อมหรือไม่ก็ตาม เลือกเวลาที่ใช่....สำหรับคุณ เลือกทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการในชีวิต เขียนมันออกมา เลือกอันที่สำคัญที่สุดและลงมือทำทันที ทำให้เป็นนิสัย อาจเริ่มจากเป้าหมายง่าย ๆ เมื่อทำสำเร็จ เราจะเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเองมากขึ้น ว่าเราทำได้ และเริ่มเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น และทำต่อไป เมื่อมีอุปสรรคให้ปรับเปลี่ยนแผนและลงมือทำต่อไปจนกว่าจะสำเร็จ ทำทุกอย่างด้วยความมุ่งมั่น อดทน และพยายามจนกว่าจะสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ ฉันหวั

7 คำทรงพลัง...มหัศจรรย์คำพูดจากปากคุณ !

7 คำทรงพลัง...มหัศจรรย์คำพูดจากปากคุณ ! 1.        ฉัน คือ สิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นมาบนโลกนี้ ฉัน คือ สิ่งมหัศจรรย์ ฉันมีคุณค่าต่อตัวเอง ต่อผู้อื่นและต่อโลกใบนี้ ขอบคุณตัวฉันเองที่เพียรฝึกฝน ขอบคุณตัวฉันเอง ขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณ 2.        ฉันทำได้ จงทำความเข้าใจกับความกลัว แล้วคุณจะกล้าขึ้นอย่างไม่ประมาท ฉันทำได้ และฉันได้ทำแล้ว 3.        ฉันเป็นคนคิดบวก “คุณจะมองเห็น สิ่งที่คุณมองหา” ทำให้คุณมองเห็นโลกที่สวยงามยิ่งขึ้น ความคิดบวกจะนำสิ่งดี ๆ มาสู่ชีวิตคุณอย่างแน่นอน โดยการยืนยัน การพูดย้ำ ซ้ำ ๆ กับตัวเอง ว่าคุณเป็นคนคิดบวก ฉันเลือกที่จะคิดบวก 4.        ฉันมีรอยยิ้มที่สดใสสวยงาม รอยยิ้มเป็นพฤติกรรมทางร่างกายที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของคนเราได้ เมื่อไหร่ที่เรายิ้มออกไป รอยยิ้มนั้นจะไปกระตุ้นสมองของเรา ให้รับรู้ถึงกล้างเนื้อของใบหน้าว่ามันคือการแสดงออก ของความสุขและอารมณ์ที่ดี 5.        ฉันคือความสุข วันนี้จะเป็นวันแห่งความสุขของฉัน ฉันเลือกที่จะมีความสุข และฉันพร้อมที่จะแบ่งปัน ความสุขให้กับผู้คน 6.     

คำสอนจากก๋ง

คำสอนจากก๋ง วันก่อนไปยืมหนังสือที่ห้องสมุด ฉันมักจะพาลูก ๆ ไปด้วย อยากให้เขาได้สัมผัสบรรยากาศ และได้ซึมซับการอ่านหนังสือจากเราผู้เป็นแม่เป็นตัวอย่าง จะให้เขาเลือกหนังสือที่ขอบ ที่อยากดู อยากอ่าน ด้วยตัวของเขาเอง เขาจะได้มีความอยากรู้อยากอ่าน ได้มีความสนใจในเรื่องดี ๆ เช่นการอ่านหนังสือ แทนการเล่นมือถือได้อย่างดี เป็นการฝึกการอ่านและเพิ่มพูนความรู้ไปในตัวด้วย วันนั้นลูกสาวคนโตของฉัน อายุ 9 ขวบ เธอเลือกหนังสือ เรื่อง อยู่กับก๋ง คิดว่าเป็นหนังสือนอกเวลาเรียนที่โรงเรียนแนะนำให้อ่าน เพราะตอนเด็กฉันก็เคยได้อ่านมาพอจำได้ แต่รู้สึกอยากอ่านมาก เลยหยิบขึ้นมาอ่านอีกครั้งในตอนโตนี้ เมื่อเรามีสติปัญญามากขึ้นกว่าแต่ก่อน ที่เคยรู้ว่าหนังสือนี้ดี ยังทำให้ได้คิดอีกว่า คำสอนที่แฝงไว้ในหนังสือนี้ ควรค่าแก่การนำไปเผยแผ่ให้กับผู้อื่นด้วย ดังเนื้อความดังต่อไปนี้ ก๋งนี้เป็นชาวจีนที่อพยพมาอยู่ที่เมืองไทย อาศัยอยู่กับหลาน ชื่อ หยก ก๋งเป็นคนจีนที่เข้ามาอยู่ในชุมชนในยุคแรก ๆ เป็นคนดี มีคุณธรรม และเป็นที่นับถือของคนในหมู่บ้าน ก๋งมักมีคำสอนดี ๆ ให้กับหยก และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับหยกเสมอ ดังคำสอนที่ว่