ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เป้าหมาย 6 ด้าน

วางแผนให้ครบ...จบทั้ง 6 ด้าน
ชีวิตของคนเรานั้น ไม่ควรให้ความสำคัญเฉพาะกับด้านใดด้านหนึ่งเพียงอย่างเดียว
ควรวางแผนเป้าหมายชีวิต ให้ครอบคลุมทั้ง 6 ด้านของชีวิตด้วย
ไม่ใช่ว่าคิดแต่เรื่องเงิน วางแผนการทำงาน แต่ลืมดูแล สุขภาพ และครอบครัว
ดังคำกล่าวที่ ว่า 
- มีเงินมากมายแค่ไหนก็ไม่สามารถทดแทนความล้มเหลว
ของครอบครัวได้
- ไม่ว่าคุณจะร่ำรวยซักแค่ไหน ก็ซื้อสุขภาพที่ดีไม่ได้
สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ ต้องสร้างเอง



เป้าหมายไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องใหญ่ แต่ควรเป็นเรื่องที่จะทำให้เรามีความสุข
ระหว่างทางที่เราเดินไปยังจุดหมายปลายทางนั้น

เป้าหมายทั้ง 6 ด้าน

1.สุขภาพ : เป็นเป้าหมายที่ฉันคิดว่า เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด
เพราะถ้าเราสุขภาพไม่ดี เราก็จะไม่มีแรงทำงาน
เมื่อทำงานไม่ได้  เราก็ไม่มีรายได้
และยังต้องเสียเงินที่หามาได้ เงินที่เก็บออมไว้
ไปกับการรักษาพยาบาลอีก
ดังนั้น เราควรให้เวลาใส่ใจกับสุขภาพของตัวเอง
การเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกาย
2.ครอบครัว : อยากให้หันกลับมามองคนในครอบครัวว่า
เขาต้องการเวลาจากคุณเหมือนกัน ถ้าคุณมัวแต่ทำงาน
รอว่าสำเร็จคงมีเวลาให้พวกเขามากขึ้น พอถึงเวลานั้น
เขาอาจไม่อยู่ตรงนี้รอคุณแล้วก็ได้
แบ่งเวลาเพื่ออยู่กับคนที่คุณรักในทุกวัน ทุกช่วงเวลาที่คุณกำลัง
เดินตามฝันของคุณ ให้พวกเขาคอยเป็นกำลังใจให้คุณ
และมีความสุขไปด้วยกัน

3.การงาน : เพิ่มความสามารถในการทำงานให้ดีขึ้น
เรียนรู้พัฒนาตนเองตลอดเวลา ทำให้งานที่ทำอยู่มีความก้าวหน้า มุ่งมั่นและเพียรพยายามทำงานอย่างดีที่สุด

4.การเงิน: วางแผนการใช้จ่ายให้คุ้มค่า เก็บออมไว้เผื่อฉุกเฉิน
วางแผนการลงทุนให้เงินงอกเงย ให้เงินทำงานให้เราอย่างคุ้มมค่า

5.อารมณ์ : การสามารถจัดการกับอารมณ์ ควบคุมอารมณ์
ตัวเองได้ดีในทุกสถานการณ์ ผ่อนคลายในการใช้ชีวิต

6.จิตวิญญาณ : การแบ่งปัน ทำเพื่อผู้อื่น เป็นผู้ให้ แบ่งปันให้กับสังคมในแบบที่เราทำได้

ซึ่งควรปรับใช้ให้เกิดความสมดุลในชีวิตทุกด้าน
ทุกความสำเร็จ...ต้องการวินัย
แรงบันดาลใจ จะทำให้คุณเดินตามฝัน
แต่วินัยและความขยัน จะทำให้คุณไม่หยุดเดิน (จนกว่าจะถึงเป้าหมาย)

...ถ้าคุณรวยแค่เงิน คุณก็จะมีแค่เงิน ...
แต่ถ้าคุณมีทั้ง 6 ด้านของชีวิต คุณจะรวยทรัพย์ และรวยสุข รวยอย่างมีคุณค่า และมีชีวิตที่อุดมไปด้วยความสุข ความรักและความสมหวัง
อิสรภาพของคุณ คือ การเดินทาง ไม่ใช่จุดหมายปลายทาง
อย่าลืมเก็บเกี่ยวประสบการณ์ความสุขระหว่างการเดินทางของคุณในทุก ๆ วัน
จงมีความสุข กับปัจจุบัน และวางแผนสำหรับอนาคตด้วยนะ !


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เวลา คือ ชีวิต

เวลา คือ สิ่งที่มีค่าที่สุด ไม่ว่ารวยหรือจน เราทุกคนเกิดมามีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน เพียงแค่ใครจะสามารถบริหารเวลาได้ดี ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุดเท่านั้น ด้วยการทำงาน เพื่อให้เราบรรลุเป้าหมายได้โดยเร็ว เราจึงต้องมีการวางแผนในทุก ๆ ด้านของชีวิต เพื่อจัดตารางเวลาให้เหมาะสม เมื่อเรามีอิสรภาพดังที่ได้ตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินทอง งาน ครอบครัว เมื่อถึงเวลานั้น เราก็จะได้มีอิสรภาพทางเวลาที่แท้จริง อยากไปไหน..ได้ไป อยากทำอะไร..ได้ทำ ได้มีเวลาทำสิ่งที่ชอบ อยู่กับคนที่รัก เพียงแต่คุณต้องเริ่มทำในสิ่งที่ต้องทำ เพื่อให้ได้ซึ่งอิสรภาพมาก่อน ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ พร้อมหรือไม่ก็ตาม เลือกเวลาที่ใช่....สำหรับคุณ เลือกทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการในชีวิต เขียนมันออกมา เลือกอันที่สำคัญที่สุดและลงมือทำทันที ทำให้เป็นนิสัย อาจเริ่มจากเป้าหมายง่าย ๆ เมื่อทำสำเร็จ เราจะเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเองมากขึ้น ว่าเราทำได้ และเริ่มเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น และทำต่อไป เมื่อมีอุปสรรคให้ปรับเปลี่ยนแผนและลงมือทำต่อไปจนกว่าจะสำเร็จ ทำทุกอย่างด้วยความมุ่งมั่น อดทน และพยายามจนกว่าจะสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ ฉันหวั

7 คำทรงพลัง...มหัศจรรย์คำพูดจากปากคุณ !

7 คำทรงพลัง...มหัศจรรย์คำพูดจากปากคุณ ! 1.        ฉัน คือ สิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นมาบนโลกนี้ ฉัน คือ สิ่งมหัศจรรย์ ฉันมีคุณค่าต่อตัวเอง ต่อผู้อื่นและต่อโลกใบนี้ ขอบคุณตัวฉันเองที่เพียรฝึกฝน ขอบคุณตัวฉันเอง ขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณ 2.        ฉันทำได้ จงทำความเข้าใจกับความกลัว แล้วคุณจะกล้าขึ้นอย่างไม่ประมาท ฉันทำได้ และฉันได้ทำแล้ว 3.        ฉันเป็นคนคิดบวก “คุณจะมองเห็น สิ่งที่คุณมองหา” ทำให้คุณมองเห็นโลกที่สวยงามยิ่งขึ้น ความคิดบวกจะนำสิ่งดี ๆ มาสู่ชีวิตคุณอย่างแน่นอน โดยการยืนยัน การพูดย้ำ ซ้ำ ๆ กับตัวเอง ว่าคุณเป็นคนคิดบวก ฉันเลือกที่จะคิดบวก 4.        ฉันมีรอยยิ้มที่สดใสสวยงาม รอยยิ้มเป็นพฤติกรรมทางร่างกายที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของคนเราได้ เมื่อไหร่ที่เรายิ้มออกไป รอยยิ้มนั้นจะไปกระตุ้นสมองของเรา ให้รับรู้ถึงกล้างเนื้อของใบหน้าว่ามันคือการแสดงออก ของความสุขและอารมณ์ที่ดี 5.        ฉันคือความสุข วันนี้จะเป็นวันแห่งความสุขของฉัน ฉันเลือกที่จะมีความสุข และฉันพร้อมที่จะแบ่งปัน ความสุขให้กับผู้คน 6.     

คำสอนจากก๋ง

คำสอนจากก๋ง วันก่อนไปยืมหนังสือที่ห้องสมุด ฉันมักจะพาลูก ๆ ไปด้วย อยากให้เขาได้สัมผัสบรรยากาศ และได้ซึมซับการอ่านหนังสือจากเราผู้เป็นแม่เป็นตัวอย่าง จะให้เขาเลือกหนังสือที่ขอบ ที่อยากดู อยากอ่าน ด้วยตัวของเขาเอง เขาจะได้มีความอยากรู้อยากอ่าน ได้มีความสนใจในเรื่องดี ๆ เช่นการอ่านหนังสือ แทนการเล่นมือถือได้อย่างดี เป็นการฝึกการอ่านและเพิ่มพูนความรู้ไปในตัวด้วย วันนั้นลูกสาวคนโตของฉัน อายุ 9 ขวบ เธอเลือกหนังสือ เรื่อง อยู่กับก๋ง คิดว่าเป็นหนังสือนอกเวลาเรียนที่โรงเรียนแนะนำให้อ่าน เพราะตอนเด็กฉันก็เคยได้อ่านมาพอจำได้ แต่รู้สึกอยากอ่านมาก เลยหยิบขึ้นมาอ่านอีกครั้งในตอนโตนี้ เมื่อเรามีสติปัญญามากขึ้นกว่าแต่ก่อน ที่เคยรู้ว่าหนังสือนี้ดี ยังทำให้ได้คิดอีกว่า คำสอนที่แฝงไว้ในหนังสือนี้ ควรค่าแก่การนำไปเผยแผ่ให้กับผู้อื่นด้วย ดังเนื้อความดังต่อไปนี้ ก๋งนี้เป็นชาวจีนที่อพยพมาอยู่ที่เมืองไทย อาศัยอยู่กับหลาน ชื่อ หยก ก๋งเป็นคนจีนที่เข้ามาอยู่ในชุมชนในยุคแรก ๆ เป็นคนดี มีคุณธรรม และเป็นที่นับถือของคนในหมู่บ้าน ก๋งมักมีคำสอนดี ๆ ให้กับหยก และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับหยกเสมอ ดังคำสอนที่ว่