เป้าหมายและวิสัยทัศน์ของคุณ
จงค้นหาเป้าหมายและวิสัยทัศน์ของคุณ
ว่าคุณต้องการอะไร ? คุณต้องการเป็นใคร ?
หรือ อะไรที่มีความหมายกับคุณจริง ๆ
ค้นหาตัวตนของคุณให้เจอ แล้วเริ่มลงมือทำ
จงอยู่กับปัจจุบัน มีความสุขในทุก ๆ ขณะ
ทำตามเสียงเรียกร้องในหัวใจของคุณ
จงตามความสุขไป สิ่งใดที่คุณทำแล้วมีความสุข
และสิ่งนั้นต้องเป็นสิ่งที่นำพาคุณ เข้าใกล้เป้าหมายในใจของคุณด้วยนะ !
“ชีวิตนั้นสั้นเกินกว่าจะไม่ทำในสิ่งที่คุณต้องการ”
“จงคิดถึง พูดถึง แต่สิ่งที่อยากได้ เป้าหมายที่ต้องการ”
และสำนึกรู้คุณ ขอบคุณสิ่งต่าง ๆ ที่คุณมีอยู่แล้วในตอนนี้
คุณยังมีชีวิตอยู่ไช่ไหม ? การที่คุณยังมีชีวิตอยู่
คือ สิ่งมหัศจรรย์ มีหลายคนที่นอนหลับไปในคืนก่อน แล้วไม่ได้ตื่นมาแบบคุณ...
ขอบคุณ ชิวิตดี ๆ อีกหนึงวันในวันนี้ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ
คุณยังมีอาหารทานใช่ไหม ? ขอบคุณ
อาหารที่ทำให้คุณมีพลังในการทำงาน ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ
คุณยังมีงานที่สร้างรายได้ให้กับคุณและครอบครัวใช่ไหม ? และสิ่งอื่น
ๆ อีกมากมาย
ทุกสิ่ง คือ ปาฏิหาริย์
ขอบคุณสิ่งที่คุณมีอยู่ตอนนี้ ยิ่งเห็นค่าของสิ่งที่คุณมี
คุณจะยิ่งมีเพิ่มมากขึ้น
จินตนาการ ถึงสิ่งที่คุณต้องการ ให้รู้สึกว่าคุณได้รับสิ่งที่ต้องการนั้นมาเรียบร้อยแล้ว
และปล่อยวาง และลงมือทำตามแผนการที่วางไว้ และทำด้วยความสุข
สร้างนิสัยดี ๆ ด้วยการกระทำซ้ำ ๆ จนกลายเป็นอัตโนมัติ
จงสร้างแรงบันดาลใจในทุก ๆ วัน
จงคิดว่า “สิ่งใดเกิดขึ้น สิ่งนั้นดีเสมอ”
จงมีความสุขในทุกขณะ อยู่กับปัจจุบันกับคนที่คุณรักและรักคุณ
ทำให้ทุกวันเป็นวันที่มีความสุข
จงจำไว้ว่า “เวลา” คือ สิ่งที่มีค่าที่สุด
คุณจงลงทุนในเวลาอย่างเหมาะสม
ทุกคนเกิดมามีเวลา 24 ชม. เท่ากัน
คุณจะใช้เวลาของคุณให้เกิดประโยชน์ที่สุดได้อย่างไร ?
คนเราทุกคน ไม่ว่ารวยหรือจน
เราทุกคนเกิดมามีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน
เพียงแค่ใครจะสามารถบริหารเวลาได้ดี
ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุดเท่านั้น
ด้วยการทำงาน
เพื่อให้เราบรรลุเป้าหมายได้โดยเร็ว เราจึงต้องมีการวางแผนในทุก ๆ ด้านของชีวิต
เพื่อจัดตารางเวลาให้เหมาะสม
เมื่อเรามีอิสรภาพดังที่ได้ตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินทอง งาน ครอบครัว
เมื่อถึงเวลานั้น เราก็จะได้มีอิสรภาพทางเวลาที่แท้จริง อยากไปไหน..ได้ไป
อยากทำอะไร..ได้ทำ ได้มีเวลาทำสิ่งที่ชอบ อยู่กับคนที่รัก
เพียงแต่คุณต้องเริ่มทำในสิ่งที่ต้องทำ เพื่อให้ได้ซึ่งอิสรภาพมาก่อน ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่
พร้อมหรือไม่ก็ตาม
เลือกเวลาที่ใช่....สำหรับคุณ
เลือกทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการในชีวิต เขียนมันออกมา
เลือกอันที่สำคัญที่สุดและลงมือทำทันที ทำให้เป็นนิสัย อาจเริ่มจากเป้าหมายง่าย ๆ
เมื่อทำสำเร็จ เราจะเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเองมากขึ้น ว่าเราทำได้
และเริ่มเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น และทำต่อไป
เมื่อมีอุปสรรคให้ปรับเปลี่ยนแผนและลงมือทำต่อไปจนกว่าจะสำเร็จ
ทำทุกอย่างด้วยความมุ่งมั่น อดทน และพยายามจนกว่าจะสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้
ความรัก ทำให้คนเรามีแรงบันดาลใจ
ที่จะทำในสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความรัก ระหว่าง คู่รัก ,
พ่อแม่-ลูก , พี่น้อง , ญาติสนิทมิตรสหาย
, สัตว์เลี้ยง และอื่น ๆ อีกมากมาย ความรัก
จะนำทางไปสู่หนทางที่ทำให้คนที่เรารักนั้นมีความสุข ความรัก
ทำให้คนเราเห็นมุมมองใหม่ ๆ ที่ต่างไปจากเดิม ความรัก ทำให้เรากล้าที่จะเติบโต
มุ่งมั่น และ พยายามไปให้ถึงเส้นชัยที่เราต้องการ - สามี-ภรรยา คู่หนึ่ง
มีความรักต่อลูกน้อยของเค้าที่เพิ่งเกิดมา
จึงเกิดความคิดที่อยากสร้างฐานะความมั่งคงให้กับครอบครัว
ด้วยการทำงานสร้างรายได้เพิ่ม
เพื่อซื้อบ้านเป็นของตัวเองเพิ่มความมั่งคงให้กับคนในครอบครัว เป็นต้น
การที่เรารักเงิน ทำให้เรารู้จักเงินมากขึ้น
การหารายได้และระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายมากขึ้นด้วย เรารักเงิน
เพราะเงินสามารถนำมาซึ่งสิ่งที่เราต้องการได้ เงินจึงไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด
แต่เงินก็ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเราทุกคน เพียงแต่เราควรที่จะรู้เท่าทันเงิน
ไม่ให้อำนาจของเงินตรา มาบดบังจิตใจของเรา ทำให้เราเกิดความโลภ เกิดกิเลส
เพียงเพราะต้องการเงินมาก ๆ คิดว่าเงินจะให้ความสุขได้
เราควรต้องทบทวนชีวิตของเราด้วยว่าความต้องการที่แท้จริงของเรานั้นคืออะไร
และเงินเท่าไหร่ คือคำตอบของความต้องการนั้น ๆ เราจะได้วางแผนเพื่อเตรียมเงินสำหรับสิ่งที่เราต้องการ
ไม่ใช่ทำงานเพียงเพื่อหาเงินให้ได้มาก ๆ เพียงอย่างเดียว โดยไม่มีจุดมุ่งหมาย
มีขั้อคิดดี
ๆ จากหนังสือ “อยู่กับก๋ง” ของ หยก บูรพา มาแชร์ให้เพื่อน ๆฟังกันคะ
ก๋งนี้เป็นชาวจีนที่อพยพมาอยู่ที่เมืองไทย
อาศัยอยู่กับหลาน ชื่อ หยก ก๋งเป็นคนจีนที่เข้ามาอยู่ในชุมชนในยุคแรก ๆ เป็นคนดี
มีคุณธรรม และเป็นที่นับถือของคนในหมู่บ้าน ก๋งมักมีคำสอนดี ๆ ให้กับหยก
และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับหยกเสมอ ดังคำสอนที่ว่า
1. “ไม่ต้องอายที่เป็นคนจน แต่ควรอายที่เป็นคนเลว
เพราะความจนความรวยเราเลือกไม่ได้ แต่ความดีความเลว เราเลือกทำเลือกเว้นได้...”
2. “คนที่มีวิชาติดตัวยากนักที่จะอับจน แพ้คนยาก และไม่เสียเปรียบใครด้วย
ถ้าไม่มีวิชาติดตัวเลยจะทำงานสูง ๆ อะไรก็ไม่ได้ ต้องเป็นคนหาเช้ากินค่ำ
ติดอยู่กับดินกับทรายตลอดชีวิต ... พยายามเรียนไปเถอะ
หมดสมองที่จะเรียนเมื่อไรค่อยหยุด”
3. “การตอบแทนบุญคุณทำได้หลายรูป...แต่รูปที่เหมาะที่สุดคือต้องให้สะดวกใจทั้งผู้ให้และสบายใจทั้งผู้รับ”
4.“ความรู้เป็นทรัพย์ติดกายที่ไม่มีใครแย่งชิงไปได้
ไม่มีวันตกหล่นแห้งหายไป คนโบราณจึงบอกว่ามีวิชาเหมือนที่ทรัพย์...” (ครูบรรยงค์)
5. “สิ่งที่เห็นเมื่อวานนี้หรือวันนี้ พอถึงพรุ่งนี้มันก็จะเปลี่ยนไป
เพียงแต่ช้าหรือเร็ว เพียงบางส่วนหรือโดยสิ้นเชิงเท่านั้นเอง
ไม่มีใครจะเหนี่ยวรั้งความเปลี่ยนแปลงไว้ได้หรอก...”
6.“สิ่งที่เราทำด้วยใจรักที่สุดคือสิ่งที่ดีที่สุด
ซึ่งอาจจะไม่ใข่งานที่ให้ผลประโยชน์กับเรามากที่สุด”
7.“งานไม่ดีเท่าที่ควรจะตัดทางทำมาหากินของเราเอง
เขาจะมาจ้างเราก็เพียงครั้งเดียว แต่ถ้าทำงานให้เขาดี ๆ เป็นที่พอใจแล้ว
ถึงเขาจะไม่มีงานใหม่มาให้เราทำ
เขาก็ยังเต็มอกเต็มใจแนะนำลูกค้ารายใหม่มาให้เรา...คนที่ทำงานลวก ๆ พอให้เสร็จ ๆ
ไป จะหากินได้รายละครั้งเดียวเท่านั้นเอง ไม่มีใครมาจ้างซ้ำสองซ้ำสามอีก...”
8.“คนเป็นงานก็ถูกเรียกใช้บ่อย
คนที่เจ้านายไม่เรียกสิน่าจะต้องสำรวจตัวเอง
ว่ามีความบกพร่องประการใดหรือด้วยความสามารถตรงไหนต่างหาก
ไม่ใช่เที่ยวอิจฉาตาร้อนคนที่ก้าวไปข้างหน้าเร็วกว่าตัวเองที่เอาแต่หยุดนิ่งอยู่กับที่เดิม
คนเรานี่น่ะส่วนใหญ่เสียตรงตาบอดกับความผิดความบกพร่องของตัวเองดีแต่คอยจ้องจับผิดคนอื่น”
9.“ไม่มีใครพร้อมหรอก
ความพร้อมไม่มีที่สิ้นสุด
วันนี้เราคิดว่าถ้ามีหรือเป็นอย่างนั้นอย่างโน้นก็จะพร้อม พอได้มาจริง ๆ แล้วเราก็คิดต่อไปอีกว่าควรจะมีจะเป็นอย่างโน้นอย่างนี้...ชีวิตจะไม่มีวันพร้อมหรอก...”
10. “คนเราเกิดมาต้องมีความกตัญญูรู้คุณ ต้องหาทางตอบแทนบุญคุณเขาให้จงได้
ให้สมกับที่เขาดีต่อเรา”
ขอบคุณหนังสือดี
ที่ให้ทั้งความสนุกและความรู้
ขอบคุณ
เพื่อน ๆ ที่ช่วยแชร์นะคะ
สวัสดีคะ....
ความคิดเห็น